วิธีสมัครและใช้งาน Facebook Developer Account
วิธีสมัครและใช้งาน Facebook Developer Account
ในปัจจุบัน facebook ถือเป็น social platform ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก ในมุมของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราจำเป็นจะต้องใช้งาน API ( Application Programming Interface ) หรือ SDK ( Software development kit ) สำหรับพัฒนาซอฟร์แวร์ทั้ง Website และ Mobile Apps
อีกหนึ่ง feature ที่เรามักจะเห็นอยู่ทั่วไปคือการใช้งาน facebook account สำหรับการพัฒนาระบบ Login หรือ Facebook single sign-on สำหรับบทความนี้จะมาแนะนำการสมัคร Facebook Account ธรรมดาให้เป็น Facebook Developer Account และเริ่มสร้าง Facebook Apps ตัวแรก ร่วมถึงอธิบายการตั้งค่าพื้นฐานให้กับแอพ
สมัครและใช้งาน Facebook Developer Account
- 1. อันดับแรกต้องมี Facebook Account ก่อนนะครับ แนะนำว่าให้เป็น Account ที่มีรายชื่อเพื่อนอยู่พอประมาณ
- 2. ไปที่หน้าเพจ developers.facebook.com จากนั้นกดปุ่มเริ่มต้นใช้งาน
- 3. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนครับ เช่น ชื่อแอพ อีเมล โดยปกติแล้วถ้าเราเริ่มสร้างแอพครั้งแรกระบบจะกรอกข้อมูลให้อยู่แล้ว
- 4. แดชบอร์ด
เมื่อกรอกข้อมูลครบแล้วระบบจะพาเรามาหน้า Dashboard ของแอพ หน้าแดชบอร์ดนั้นจะเป็นหน้าที่สรุปข้อมูลโดยรวมของแอพ สถิติการใช้งานแอพแต่ละวัน เวอร์ชั่นของ API และ ไอดีของแอพเป็นต้น ซึ่งเป็นข้อมูลที่เราจะต้องนำไปใช้ในการตั้งค่าในขั้นตอนการพัฒนาฝั่ง client ทั้ง website และ mobile
- 5.การตั้งค่า
จะมีเมนูย่อยอยู่ 2 เมนูคือ- 5.1 ข้อมูลพื้นฐาน
จะเป็นเมนูย่อยที่เราจะต้องใช้บ่อยที่สุดสำหรับการตั้งค่าพื้นฐานให้แอพใช้งานได้ เช่น กำหนดโดเมนของแอพ กำหนดเนมสเปซ กรณีเป็น canvas apps โลโก้ และการเลือกแพลตฟร์อม หลัก ๆ ที่เราจำเป็นจะต้องใส่ข้อมูลเข้าไปเพื่อให้แอพสามารถทำงานได้ก็จะมีดังนี้ครับ
– โดเมนเนม
– หมวดหมู่
– แพลตฟอร์ม - 5.2 ขั้นสูง
เมนูย่อยตั้งค่าขั้นสูงของแอพหากแอพเราไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมากมาย เมนูนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าใด ๆ จะเป็นการตั้งค่า ip whitelist, เชื่อมโยงกับบัญชีเฟสบุ้คที่จัดการโฆษณา เป็นต้น
- 5.1 ข้อมูลพื้นฐาน
- 6. บทบาท
ไว้สำหรับกำหนดบทบาทให้กับ Developer Account คนอื่น ๆ ในทีมในขั้นตอนของการทดสอบ และสร้าง demo account สำหรับการทดสอบแอพพลิเคชั่น - 7. การเตือน
จะเป็นส่วนของข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่ทางทีมพัฒนาของ facebook จะแจ้งมาให้เราทราบ เช่น การแจ้งข่าวการอัพเดทเวอร์ชั่นของ API การอนุมัติหรือไม่อนุมัติการร้องขอ Permission ของแอพ รวมไปถึงคำแนะนำ และข้อผิดพลาดต่าง ๆ ของแอพ ที่เกิดขึ้นในช่วงของการพัฒนา
- 8. การตรวจพิจารณาแอพ
เป็นเมนูสำหรับเปิดใช้งานจริงของแอพ เมื่อผ่านขั้นตอนการพัฒนาและตัวแอพพร้อมจะออนไลน์ จะต้องตั้งให้แอพเป็นแบบ สาธารณะ ในเบื้องต้นแอพเราจะได้รับอนุญาติ ( Permission ) ให้เข้าถึงข้อมูลได้เพียงแค่ 3 ส่วนคือ
– email
– public_profile
– user_friends
หากแอพเราต้องการข้อมูลมากกว่านี้ ตัวอย่างเช่น ต้องการรู้ข้อมูลวันเกิด จะต้องทำการร้องขอเปิด permission ตัวใหม่คือ birthday เพื่อทางเฟสบุ้คตรวจสอบก่อน
- 9. สินค้า
ใช้สำหรับการเลือกว่าเราจะใช้งานฟีเจอร์ส่วนไหนของ facebook ตัวอย่างเช่น การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook, Analytics, Messanger เป็นต้น
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้เริ่มต้นครับ