CMS คืออะไร แนะนำเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ได้รับความนิยม

สอน wordpress
สอน wordpress

CMS คืออะไร ข้อดีและข้อเสียของการใช้งานระบบสำเร็จรูป



CMS คืออะไร แนะนำเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ได้รับความนิยม

CMS ย่อมาจากภาษาอังกฤษว่า Content Management System คือ ระบบการจัดการเนื้อหาของเว็บไซต์
เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อช่วยลดทรัพยากรด้านต่าง ๆ ในการพัฒนา และบริหารจัดการเนื้อหาภายในเว็บไซต์
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกำลังคน ระยะเวลา และเงินทอง ที่ใช้ในการสร้างและควบคุมดูแลเว็บไซต์



ลักษณะเด่นของ CMS โดยทั่วไปคือ ก็คือ มีส่วนของการจัดการข้อมูล การสร้างหน้าเพจ ที่ใช้ในการบริหารจัดการส่วนการทำงานต่างๆ ในเว็บไซต์ ทำให้สามารถบริหารจัดการเนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว และเน้นที่การ จัดการระบบผ่านเว็บ
Web Interface ในลักษณะรูปแบบของ WYSIWYG Editor หรือ “what you see is what you get” ซึ่งนั้นทำให้
การพัฒนาเว็บไซต์ ถึงแม้จะไม่ไช่ Programer หรือมีความรู้ในด้านการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบื้องต้นก็สามารถ
บริการจัดการเว็บไซต์ได้

ข้อดีของการเลือกพัฒนาเว็บไซต์ด้วย CMS

– อาจจะใช้เวลาช่วงแรกในการเรียนรู้ระบบ แต่ในระยะยาวจะประหยัดเวลาและขั้นตอนในการพัฒนาได้มาก
– สะดวก CMS ที่ได้รับความนิยม จะมีระบบพัฒนาส่านเสริม plugin หรือ extension ทำให้ความสามารถของเว็บไซต์ได้ในระยะเวลาที่สั้น
– พัฒนาแบบ Customize ได้ CMS ที่ได้รับความนิยม ส่วนใหญ่ เปิดให้สามารถนักพัฒนาสามารถสร้าง plugin หรือ extension ใช้งานหรือขายบน store ของตัวเองได้
– มีชุมชนนักพัฒนา เมื่อติดปัญหา สามารถแก้ไขได้ง่าย จากนักพัฒนาที่ใช้ CMS เดียวกัน
– มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทีมพัฒนาจะอัพเดทเวอร์ชั่นเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่ผู้ใช้งานพบในขั้นตอนของการพัฒนา



cms-คืออะไร

CMS ที่ได้รับความนิยมในโลก ปี 2016


  • WordPress
    – เป็น CMS ยอดนิยม ถ้าดูสถิติยอดดาวน์โหลดและการเข้าชมเว็บไซต์หลัก
    – ติดตั้งง่าย คนทั่วไปสามารถเรียนรู้พื้นฐานได้รวดเร็ว
    – ใช้งานไม่ยาก สามารถปรับแต่งรูปแบบ theme ได้ไม่ยาก
    – ระบบเปิดให้ใช้งานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
    – มีเพียงระบบ plugin ที่ต้องเสียเงินซื้อเพิ่ม แต่ระบบพื้นฐานของ WP เองก็เพียงพอสำหรับผู้เริ่มต้น
    – มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมี plugin ให้เลือกใช้งานมากมาย มีระบบ community ที่ใหญ่หาข้อมูลง่าย

  • Joomla
    – เป็น CMS ที่มีจุดเป็นที่ระบบ eCommerce
    – หากจะปรับให้ได้ดังใจ ต้องอาศัยความรู้เบื้องต้นด้านโค๊ดดิ้ง เหมาะกับคนที่มีความรู้ด้านนี้บ้างแล้ว
    – ระบบเปิดให้ใช้งานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
    – มีระบบติดตั้ง component และ extension
    – มีระบบ community ให้เราตั้งคำถามได้ ถ้าติดปัญหา https://community.joomla.org

  • Drupal
    – เป็น CMS ต้องอาศัยความรู้ด้านโปรแกรมมิ่งสูงกว่า Joomla และ WordPress
    – มีการบริหารจัดการ Web Performance ได้ดีมาก โหลดหน้าเพจเร็ว
    – ระบบเปิดให้ใช้งานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
    – มีระบบติดตั้ง theme และ plugin คล้าย wordpress


การเลือกใช้งาน CMS

– ควรเลือกใช้งาน CMS ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
– ควรเลือกใชงาน CMS ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยและเมื่อเกิดปัญหาทีมพัฒนาสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
– ควรเป็น CMS ที่ได้รับความนิยม มีชุมชนที่ไว้พูดคุยสอบถามปัญหาและมีการพัฒนาร่วมกัน
– สำหรับผู้เริ่มต้น แนะนำเริ่มจาก wordpress
– สำหรับคนที่มีพื้นฐานอยู่บ้างแล้ว ต้องการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ได้ดั่งใจลอง Joomla
– สำหรับคนที่ต้องการความเร็ว เน้นข้อมูล เรียบง่าย ลอง Drupal