เว็บไซต์สมัยใหม่ กับ 5 องค์ประกอบหลักที่ควรมี
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัจจุบันสื่อออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ เว็บไซต์ สื่อสังคม ออนไลน์แอพพลิเคชั่น ก้าวเข้ามามีบทบาทที่สำคัญมากมายกับแทบจะทุกประเภทธุรกิจ ทุกวันนี้แม้แต่ธุรกิจปลูกหญ้าขาย ทำไร่ ทำสวน ก็สามารถเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ผ่านการทำการตลาดออนไลน์ได้ คนทำสวนทุเรียน สามารถประชาสัมพันธ์ ปรับปรุงส่วนให้เป็นสถานที่พักผ่อนวันหยุด และเปิดให้
ท่องเที่ยวภายในสวนแบบ Adventure สร้างรายได้แบบเป็นกอบเป็นกำ เห็นไหมครับว่าเราสามารถประยุกต์ใช้สื่อออนไลน์เพิ่มช่องทางการทำมาหากินได้ ในทุก ๆ ประเภทธุรกิจจริง ๆ และสื่อหลักที่สำคัญและจำเป็น เป็นอันดับต้น ๆ ของการเริ่มทำธุรกิจแบบออนไลน์ก็คือ “เว็บไซต์” ลึกไปกว่านั้นคือ ต้องเป็นเว็บไซต์ที่ได้มาตรฐาน ตรง และตอบโจทย์ธุรกิจ สามารถสร้างรายได้มี ROI กลับมาจริง ๆ ลองมาดูกันครับว่า ถ้าเราจะทำเว็บไซต์ให้ได้มาตรฐานและสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ องค์ประกอบหลักของเว็บไซต์โดยปกติทั่วไปแล้ว ควรจะต้องมีส่วนประกอบอะไรบ้าง
1. Simplicity เน้นการใช้งานและความเรียบง่าย
คำว่าเรียบง่าย ความหมายคือสามารถเข้าถึงข้อมูลบริการต่าง ๆ ได้โดยง่าย ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาข้อมูลหรือเลื่อนดูข้อมูลบริการที่ไม่ต้องกับความต้องการของลูกค้า เนื้อหาควรชัดเจน กระชับ เข้าใจง่าย สีเว็บไซต์ไม่ควรหลากสีจนเกินไป เมื่อผู้คนเข้ามายังเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับธุรกิจของเรา นั่นหมายความว่า เขาได้ค้นหาและเจอข้อมูลที่น่าสนใจและตรงกับความต้องการ แต่ถ้าเข้ามาในเว็บไซต์แล้วไม่เจอการบริการที่ตรงกับความต้องการ หรือมีแต่หาไม่เจอ ทำเราเสียโอกาสได้ลูกค้าไปแล้ว
2. Visual Hierarchy ลำดับความสำคัญขององค์ประกอบในหน้าเว็บไซต์อย่างถูกต้อง
การลำดับความสำคัญขององค์ประกอบในหน้าเว็บไซต์ กล่าวคือ การจัดองค์ประกอบต่าง ๆ ให้เหมาะสมตามลำดับความสำคัญโดยต้องมองเว็บไซต์ ในมุมของของกลุ่มลูกค้าหรือ Visitor เว็บไซต์ส่วนใหญ่จะประกอบด้วย เมนูหลัก ส่วนแบนเนอร์สไลด์ ปุ่ม Call To Action ข้อมูลติดต่อใช้บริการ เป็นต้น การลำดับความสำคัญขององค์ประกอบเหล่านี้ให้ถูกต้อง เป็นมิตรและนำทางผู้ใช้งานจะเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์และกระตุ้นให้เกิดการซื้อ ตัวอย่างเช่น ถ้าธุรกิจเราให้บริการเกี่ยวกับ
3. Navigability นำทางผู้ใช้งานเว็บไซต์ ให้ถึงเป้าหมายตรงตามต้องการ
เว็บไซต์ที่ดีต้องสามารถนำทางผู้ใช้งานไปยังจุดที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า และสามารถสร้างโอกาสการซื้อได้ โดยใช้ระยะเวลาที่ลูกค้าอยู่ในเว็บไซต์ไม่นานจนเกินไป สามารถนำทางผู้ใช้งานเว็บไซต์จากจุด A ไปยังจุด B จะเป็นการดีมากกว่าไหมถ้าผู้ใช้งานเว็บไซต์สามารถเข้าถึงข้อมูลบริการที่ตรงกับความต้องการได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียเวลาค้นหาจากหน้าเพจอื่น ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความต้องการเลย
4. Accessibility รองรับผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ในเทคโนโลยีที่หลากหลาย
เว็บไซต์ที่ดีจะต้องมีความสามารถรองรับผู้เข้าชมเว็บไซต์จากการใช้งานอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน แน่นอนว่ามีการใช้งานอุปกรณ์สมาร์โฟนหลากหลายรุ่น เบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการ และยังมีความแตกต่างของเวอร์ชั่นซอฟต์แวร์อีก จะดีแค่ไหนถ้าเว็บไซต์ธุรกิจของเรา สามารถรองรับผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ในทุก ๆ เทคโนโลยี เพราะฉะนั้นเว็บไซต์ของคุณจะต้องเข้ากันได้กับอุปกรณ์ที่แตกต่างกันและหลากหลายเทคโนโลยี
5. Conventionality รักษาโครงสร้างหลักของเว็บไซต์ที่เราคุ้นเคยเอาไว้
การพัฒนาเว็บไซต์เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่เมื่อใช้งานเว็บไซต์จะสามารถคาดเดาตำแหน่งหรือสามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากความคุ้นชินแบบอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น เมื่อเราต้องการจะไปหน้าแรก เรามักจะกดปุ่มโลโก้ที่อยู่ซ้ายมือบน เมื่อเราต้องการเปลี่ยนภาษา เราจะมองหาปุ่มเปลี่ยนภาษาซึ่งมักจะอยู่มุมขวามือบน และเมื่อเราต้องการจะติดต่อใช้บริการเรามักจะเลื่อนหน้าเว็บไซต์ลงมาด้านล่างสุด ถ้าเราออกแบบเว็บไซต์โดยคำนึงถึงความเคยชินเหล่านี้ จะทำให้เว็บไซต์เราเป็นมิตรกับผู้ใช้งานแบบที่เว็บไซต์ควรจะเป็น
