5 สาเหตุที่ AppReject ไม่ให้ขึ้น Apps Store ( Apps Reject )

สาเหตุส่วนใหญ่-ที่แอปโดนปฏิเสธไม่ให้ขึ้น-Apps-Store
สาเหตุส่วนใหญ่-ที่แอปโดนปฏิเสธไม่ให้ขึ้น-Apps-Store

ในการนำ Application ขึ้นออนไลน์บน Apple App Store นั้น นักพัฒนาจำเป็นจะต้องพัฒนาแอปพลิเคชั้นให้ทำงานตามกฏเกณฑ์ของ Store เสียก่อน หรือที่เรียกว่า App Store Review Guidelines ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 หัวข้อหลัก คือ

  • Safety พิจารณาเรื่องความปลอดภัย
  • Performance พิจารณาประสิทธิภาพการทำงาน ความเสถียร
  • Business พิจารณาจากประเภทธุรกิจการให้บริการ
  • Design พิจารณาการออกแบบ คุณภาพของแอปพลิเคชั่น
  • Legal พิจารณาความถูกต้อง ตามข้อกฏหมาย

ทีนี้ลองมาดูกันครับว่า ปัญหาที่แอปส่วนใหญ่มักเจอและโดน Reject จาก Apple App Store นั้น อยู่ในส่วนไหนจาก 5 หัวข้อนี้

อันดับ 1

Guideline 4.2.2 – Design – Minimum Functionality

ปัญหาเกิดจาก แอปที่เน้นการประชาสัมพันธ์ธุรกิจ ให้ข้อมูลธุรกิจ มีฟีเจอร์ที่ปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งานแอปน้อยเกินไป ไม่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้งาน ส่วนใหญ่เน้นให้ข้อมูล หรือโหลดข้อมูลมาแสดงจากที่อื่น หรือจากเว็บไซต์หลักของเจ้าของแอป

วิธีแก้ปัญหา นอกจากการให้ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของเราแล้ว ตัวแอปควรมีฟีเจอร์หรือฟังก์ชั่นที่สามารถดึงดูดคนใช้งานได้ ฟีเจอร์นั้นอาจจะเพิ่มเข้ามาเพื่อรองรับธุรกิจของเราโดยตรง เช่น แอปร้านขายเสื้อผ้า อาจจะมีระบบการสั่งซื้อ หรือฟีเจอร์การออกแบบเสื้อผ้าอยู่ภายในแอป เพื่อให้แอปเกิดประโยชน์กับผู้ใช้งาน และผู้ใช้งานแอปมีปฏิสัมพันธ์ในการใช้งานเพิ่มขึ้น

อันดับ 2

Guideline 2.1 – PerformanceApp Completeness

ปัญหาเกิดจาก แอปที่ไม่เสถียร มีปัญหากับเกี่ยวกับ workflow การทำงานของตัวแอปเอง แอปปิดตัวเองลงในการเข้าใช้งานบางหน้า ข้อมูลบางหน้าของแอปมีการขึ้น Null หรือ Undefined แอปใช้หน่วยความจำของเครื่อง หรือ แบตเตอรี่ สูงเกินไป ทำให้เครื่องร้อน ทำงานหนักเกินไป

วิธีแก้ปัญหา ตรวจสอบการทำงานของแอปให้ดีกว่าเดิมก่อนส่งขึ้นไป review รอบต่อไป ทำการ Optimize ฟังก์ชั่นที่ทำให้แอปทำงานหนักเกินไป ตรวจสอบข้อมูลในส่วนต่าง ๆ ของแอปที่แสดงผลไม่ถูกต้อง ที่ส่งผลต่อการใช้งานของ end user โดยตรง

อันดับ 3

Guideline 5.1.1 – Legal – Data Collection and Storage

ปัญหาเกิดจาก แอปที่ไม่ระบุนโยบายข้อมูล นโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ไม่ระบุลิงค์ที่อธิบายการเก็บข้อมูลที่ชัดเจน เก็บข้อมูลอะไรบ้าง และนำข้อมูลไปใช้งานส่วนไหนบ้าง และข้อมูลนั้นจะถูกป้องกันไม่ให้เผยแพร่ออกไปสู่สาธารณะอย่างไร ผู้ใช้งานจะยกเลิกได้อย่างไร เป็นต้น

วิธีแก้ปัญหา แอปทุกแอปบน Apple Store ควรมี Official Website เพื่อให้ข้อมูลของตัวแอปพลิเคชั่นเอง และให้ข้อมูลส่วนต่าง ๆ รวมถึงข้อมูล นโยบายความเป็นส่วนตัว นโยบายการเก็บข้อมูล และการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งานแอป ( End User ) ต้องสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก โปร่งใส เห็นปุ่มหรือลิงค์ได้ง่ายภายในแอป

อันดับ 4

Guideline 5.1.5 – Legal – Location Services

ปัญหาเกิดจาก แอปที่มีการขอใช้งาน การเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้งของผู้ใช้งานแอป Location-based API นำ Latitude & Longitude ไปใช้งานภายในแอป แต่ไม่อธิบายรายละเอียดว่า ตัวแอปได้นำข้อมูลนี้ไปใช้งานส่วนไหน ใช้ทำอะไร เพื่ออะไร

วิธีแก้ปัญหา อธิบายจุดประสงค์ของการนำข้อมูลไปใช้งาน อย่างละเอียด ว่าตัวแอปต้องการข้อมูลส่วนนี้ไปทำไม และนำไปใช้งานส่วนไหน เพื่อทำอะไร ระบุในส่วนของไฟล์ info.plist

อันดับ 5 ( ใหม่ล่าสุด )

Guideline 4.8 – Design – Sign in with Apple

ปัญหาเกิดจาก เราอาจจะเคยเห็นแอปหลาย ๆ แอปบน Apple Apps Store มีการใช้งานระบบ SSO ( Single Sign On ) หรือการเข้าสู่ระบบด้วยแพลตฟอร์มอื่นอย่าง Facebook, Google+, Twitter ในปัจจุบันกฏใหม่ของ Apple จะไม่อนุญาติให้แอปที่มีการเข้าสู่ระบบด้วยแอปเหล่านี้ขึ้น Apps Store ยกเว้นแอปที่มีการเข้าสู่ระบบด้วย Custom Sign On เท่านั้น จะสามารถนำขึ้น Store ได้ปกติ

วิธีแก้ปัญหา เรายังสามารถใช้การเข้าสู่ระบบด้วยแพลตฟอร์มอื่นอย่าง Facebook, Google+, Twitter และนำขึ้น Apps Store ได้ปกติ เพียงแต่ต้องเพิ่มการเข้าสู่ระบบด้วย Apple Single Sign On เข้าไปด้วยเท่านั้นครับ

Leave a Reply